สอบสวนทราบว่าหลังเลิกเรียน ด.ญ.ศรีวรรณ์ ผู้ตาย กับเพื่อนหลายคน พากันไปเล่นชิงช้า

โดย ด.ญ.ศรีวรรณ์นั่งอยู่บนชิงช้าตัวที่สอง มีเพื่อนๆช่วยแกว่งส่งให้ร่างของ ด.ญ.ศรีวรรณ์โยกไปมาตามแรงเหวี่ยงของชิงช้าอย่างสนุกสนาน

ปรากฏว่าขณะที่ชิงช้าแกว่งไปทางด้านหลัง จู่ๆ ฐานของชิงช้ามรณะกระดกล้มหงายตามแรงเหวี่ยง ไปทางด้านหลัง ทำให้ร่างของ ด.ญ.ศรีวรรณ์ กระแทกพื้นทรายพร้อมกับคานเหล็กของชิงช้าล้มทับศีรษะ ด.ญ.ศรีวรรณ์ดังสนั่นจนตายคาที่ ส่วนสาเหตุที่ชิงช้าล้มทับหนูน้อยเคราะห์ร้ายครั้งนี้ พบว่าฐานชิงช้าวางอยู่บนพื้นสนามที่เป็นทราย โดย ไม่ได้มีการเทปูนยึดฐานไว้ ประกอบกันช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนัก อาจทำให้ทรายยุบตัวจนเกิดเหตุสยองดังกล่าว

นางลำพู สุนทรมุนี แม่หนูน้อยชะตาขาดให้การว่า ด.ญ.ศรีวรรณ์เป็นลูกคนสุดท้อง ในจำนวนลูก 5 คน ปกติ ด.ญ.ศรีวรรณ์จะเดินกลับบ้านเองและจะถึงบ้านราว 16.30 น. ไม่ทราบว่าไปเล่นชิงช้าได้อย่างไรและเล่นกับใคร มาทราบเรื่องเมื่อมีครูโทรศัพท์ไปแจ้งว่า ด.ญ. ศรีวรรณ์ถูกชิงช้าทับเสียชีวิต ทำให้เสียใจมาก หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ และจะได้สอบสวนหาผู้รับผิดชอบดูแลสนามเด็กเล่นมรณะเพื่อดำเนินคดีต่อไป

แหล่งข้อมูล: นสพ.ไทยรัฐ ภาพประกอบ: ไทยรัฐ