ต่อมาประมาณปลายเดือน
ก.ย. 2556 พระดำได้ตะเวนพาเด็กผู้เสียหายไปตามวัดต่างๆ
ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน โดยการนำเด็กส่งให้พระเสาร์แก้ว
เกี๋ยงหล้า เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม อ.แม่ริม ,พระครูปลัดเปี๊ยก โอภาโส
เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย อ.แม่แตง , พระจำรัส อธิมุตโต
เจ้าอาวาสวัดท่าผา อ.แม่แตง และพระครูประภัศร์ วรการ วัชระ พุดเกิด
เจ้าอาวาสวัดกู่ป่าลาน อ.บ้านธิ ลำพูน รวมทั้งหมด 5 วัด
ซึ่งเจ้าอาวาสทั้งหมดได้กระทำชำเราและล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่โดยทุกครั้ง
แล้วพระเหล่านี้ได้จ่ายเงินให้พระดำผู้นำพาและเด็กผู้เสียหาย
ครั้งละ 300-500 บาท ต่อมาเด็กผู้เสียหายพากันหลบหนีจากพระดำ
แล้วมีผู้แนะนำให้ขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
สตรี และเยาวชน และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ตำรวจภูธรภาค5
หลังตำรวจได้รับแจ้งความแล้ว จึงได้ออกหมายจับพระดำ หรือนายธวัชชัย
มูลปานันท์ เมื่อเดือนเม.ย. 2557 จนจับกุมตัวได้
โดยเจ้าตัวรับสารภาพว่าได้พาเด็กผู้เสียหายไปขายบริการทางเพศให้กับพระตามวัดต่างๆ
จริง จากนั้นตำรวจชุดสืบสวน ภาค5 ได้ขยายผลไปออกหมายจับพระรูปอื่นๆ
ที่ซื้อบริการและกระทำชำเราหรือกระทำอนาจารเด็ก อีกจำนวน 4 คน
และวันนี้ วันที่ 27 พ.ค. 2557 พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค5
ได้สั่งการให้มีการจับกุมพระทั้งสี่ได้
จากนั้นนำตัวไปค้นกฏิเจ้าอาวาสผู้ต้องหา พบมีซีดีลามก
วัตถุคล้ายอวัยวะเพศชาย ขวดสุรา เจลหล่อลื่น
ซึ่งพยานหลักฐานอันแสดงได้ว่าพระดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดจริง
ต่อมาตำรวจได้นำพระภิกษุทั้งหมดไปทำการสละสมณะเพศ
ซึ่งเข้าข่ายความผิดวินัยสงฆ์ในข้ออาบัติปาราชิก (เสพเมถุน)
อันขาดจากความเป็นพระตั้งแต่ได้กระทำความผิดแล้ว
ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาคือ
"กระทำชำเราหรือกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี
โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม"
ส่วนพระดำนั้นได้แจ้งข้อหาค้ามนุษย์
โดยนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนเด็กก็ได้จัดส่งไปยังบ้านเด็กชายสงเคราะห์ อ.แม่ริม
จ.เชียงใหม่ เพื่อให้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ต่อไป
เพราะเด็กส่วนมากเป็นเด็กมีปัญหาทางครอบครัว
|