จมน้ำในแต่ละกลุ่มอายุเด็ก มีเหตุและแนวทางป้องกันในระดับชุมชนที่แตกต่างกันดังนี้

 
 

1.เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ตายเพราะขาดการดูแลเพียงชั่วขณะ

เด็กกลุ่มนี้ทั้งหมดเสียชีวิตภายในบ้านและรอบๆบ้าน
ทั้งที่เป็นบ้านตนเองและบ้านที่อพยพไปอยู่ชั่วคราว เหตุเกิดขึ้นขณะเด็กนอน หรือเล่น
และผู้ปกครองเผลอเรอชั่วขณะเช่นไปล้างจาน แต่งตัว งีบหลับ เด็ก

แนวทางการป้องกัน
ผู้ปกครองต้องดูแลแบบมองเห็นเด็กตลอดเวลา
หากเป็นเด็กน้อยกว่า 3 ปีต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นคว้าถึง
หากเป็นกลุ่ม 3-5 ปีต้องอยู่ในในระยะมองเห็นและเข้าถึง
ผู้ปกครองต้องดัดแปลงบ้านหรือศูนย์พักพิงให้ปลอดภัยเพื่อป้องกันภาวะเผลอเรอชั่วขณะ
หรือขณะที่ผู้ปกครองนอนหลับพักผ่อน โดยกั้นประตูหรือรั้วไม่ให้เด็กออกไปนอกบ้าน ตกไปในบริเวณน้ำท่วม
โดยรั้วนั้นต้องสูง 1 เมตรขึ้นไป และไม่มีช่องรูที่กว้างกว่า 9 ซม ซึ่งเป็นช่องที่เด็กลอดตกได้
เด็กควรมีชูชีพประจำตัว 1คนต่อ 1 ตัว และหากน้ำล้อมรอบบริเวณที่เด็กอยู่อาศัย ควรให้เด็กใส่ชูชีพตลอดเวลาที่ตื่น
ในบ้านที่มีเด็กทารกและมีน้ำเข้าไปในบ้านแล้ว ควรพิจารณาอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง

2.เด็กอายุ 5-9 ปี ตายเพราะเล่นใกล้แหล่งน้ำ และสัญจรทางน้ำ

เด็กกลุ่มนี้ร้อยละ 33 ตายในบ้านและบริเวณรอบๆบ้าน
ร้อยละ 66 ตายในบริเวณละแวกบ้าน ในชุมชนของตนเอง
ร้อยละ 66 เกิดจากการเล่นน้ำในที่ตื้น ที่ไม่ได้จงใจจะลงไปว่ายน้ำโดยตรง เช่น
การนั่งเล่น นอนเล่นบนพื้นผิวถนนที่มีน้ำไหลผ่าน
แต่ถูกกระแสน้ำพัดตกไปในพื้นที่ข้างเคียงซึ่งลึกกว่า เช่น
ถูกพัดไถลลงข้างไหล่ทางซึ่งระดับน้ำลึก การตายเกิดขึ้นทั้งในเด็กที่ว่ายน้ำเป็นและว่ายน้ำไม่เป็น
บางครั้งเป็นการตายคู่เกิดขึ้นจากความพยายามช่วยเพื่อนที่จมน้ำ

เกือบทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลที่ผิดวิธี โดยการอุ้มพาดบ่า กระโดดหรือวิ่ง

การป้องกัน เด็กอายุ 7 ปีต้องว่ายน้ำเป็น

อย่างไรก็ตามต้องสอนเด็กโตไม่ให้เล่นน้ำบริเวณที่มีน้ำไหลเชี่ยว
แม้ว่าแลดูตื้นเช่นบนถนน หากมีความจำเป็น ต้องใส่เสื้อชูชีพเสมอแม้จะว่ายน้ำเป็นก็ตาม

ห้ามช่วยคนจมน้ำโดยกระโดดลงไปช่วยในน้ำให้ยื่นอุปกรณ์ให้เกาะแล้วดึงกลับเข้าฝั่ง หรือโยนอุปกรณ์ลอยตัวเช่นกระป๋องน้ำ

3.เด็กอายุ 10-14 ปี ตายเพราะใช้ถนนที่มีน้ำเชี่ยวหลาก

เด็กกลุ่มนี้ร้อยละ 50 ตายในบริเวณละแวกบ้าน ในชุมชนของตนเอง
ร้อยละ 40 ตายในบริเวณที่ห่างไกลจากบ้านและชุมชนของตนเอง
ร้อยละ 40 เกิดจากการใช้ถนนที่ถูกน้ำท่วมและมีน้ำไหลเชี่ยวผ่านโดยพยายามขี่มอเตอร์ไซด์ จักรยาน
หรือ เดินผ่านไป แต่ถูกกระแสน้ำพัดพาไปบริเวณข้างทางซึ่งลึกกว่า
ร้อยละ 30 ยังเป็นเหตุการตายจากการไปนั่งเล่นนอนเล่นบริเวณน้ำท่วมตื้นๆ
แต่มีกระแสน้ำพัดออกไปบริเวณลึก การตายเกิดขึ้นทั้งในเด็กที่ว่ายน้ำเป็นและว่ายน้ำไม่เป็น
บางครั้งเป็นการตายคู่เกิดขึ้นจากความพยายามช่วยเพื่อนที่จมน้ำ
เกือบทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลที่ผิดวิธี โดยการอุ้มพาดบ่า กระโดดหรือวิ่ง

การป้องกัน เด็กวัยนี้ต้องว่ายน้ำเป็นทุกคน
อย่างไรก็ตามต้องไม่อนุญาติให้เด็กสัญจรบนถนนที่มีน้ำไหลเชี่ยว
แม้จะดูน้ำท่วมไม่มากก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการขี่มอเตอร์ไซด์ จักรยาน หรือเดินลุยน้ำ
หากมีความจำเป็น ต้องใส่เสื้อชูชีพเสมอแม้จะว่ายน้ำเป็นก็ตาม
ห้ามช่วยคนจมน้ำโดยกระโดดลงไปช่วยในน้ำให้ยื่นอุปกรณ์ให้เกาะแล้วดึงกลับเข้าฝั่ง หรือโยนอุปกรณ์ลอยตัวเช่นกระป๋องน้ำ

 
     
  สรุปบทเรียน>  
  ตัวอย่างการตายในกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี>  
  ตัวอย่างการตายในกลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี>  
  ตัวอย่างการตายในกลุ่มเด็กอายุ 10-14 ปี>  
  ภาพกิจกรรมจัดงานที่ไบเทคบางนา>  
  เรื่องน่ารู้สู่ความปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม>